
มนุษย์ มีไหมที่คุยกับคนที่ติดกับดักทางความคิดในตนเองแล้วรู้สึกเหนื่อย เหนื่อยจนไม่อยากคุยด้วย หากเราเคยคุยกับคนแบบนี้ให้นึกถึงคนที่มีอัตตาในตนเองสูง ซึ่งคนที่คิดว่าตนเองถูกอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราไม่อยากจะคุยกับคนนั้น เพราะเขาไม่คิดจะรับฟังอะไรเลย แต่จะว่าไปคนที่มีอีโก้ก็สอนตัวเราได้ดีเลยทีเดียว
ว่าเวลาคุยกับใคร…เราอย่าเป็นแบบนิสัยเดียวกับเขาเด็ดขาด เพื่อเตือนตัวเราเอง
ฉันได้เจอบุคคลประเภทหนึ่ง ภายนอกเขาดูเหมือนคนที่จะเป็นคนสดใส อัธยาศัยดี ซึ่งเขาเหมือนจะเป็นคนที่ดูมีวุฒิภาวะที่จะเติบโตขึ้นอีกระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ฉันรู้สึกผิดปกติในตัวของเขาอย่างหนึ่ง
คำพูดของเขาดูมีอคติกับการออกกำลังกาย และการเล่นกีฬาตลอดเวลา แต่หวังว่าอยากมีรูปร่างที่ดี ซึ่งเขาจะอ้างโน่นอ้างนี่ตลอดเวลา มองแค่ว่าฉันต้องการแบบนั้นแบบนี้ แต่ลืมไปว่าสิ่งที่เขาไม่อาจให้คุณได้ นั่นก็เพราะคุณยังติดในอัตตาของตนเองอยู่ นั่นก็คือความอคติส่วนตัวของเขานั่นเอง
ต่อให้เราพยายามมากแค่ไหน เขาค่อนข้างจะท่าโน่นท่านี่ประหนึ่งให้ฉันอดทนกับคนอย่างเขาอย่างเดียว ฉันเลยปล่อยในการกระทำของเขา แล้วเขากลับมาถามว่า เมื่อไหร่จะมีเวลาเทรนให้เขาอีก
เราจะได้ผลหรือไม่มันอยู่ที่ว่าเราจะปรับทัศนคติของเรามากเพียงพอหรือไม่…มันอยู่ที่ตรงนี้จริงๆ
เขาคอยแซะนั่นแซะนี่ว่าคนที่มาสายออกกำลังกาย สายกีฬาว่าเป็นพวกไม่มีสมอง เอาดีไปก็ไม่มี อาชีพ ที่แน่นอน หรือพูดง่ายๆ ว่าเอาดีทางกีฬาไปเท่านั้น ก็เห็นแค่คนที่เด๊ะท่าไปวันๆ อวดว่าโชว์พาวไปวันๆ เท่านั้น แต่ถ้ามองในทางกลับกัน เขาติดค่านิยมว่าคนเรียนคือคนฉลาด และความถนัดทางด้านกีฬาคือสิ่งที่เขาไม่มี เป็นสิ่งที่เขาโหยหาอยากได้ ซึ่งคนที่ยึดอีโก้ของตนเองจะมีความอิจฉาบางอย่างในสิ่งที่คนเราไม่มี
อย่าลืมว่าในโลกนี้มนุษย์ไม่มีอะไรที่เหมือนกันทุกอย่าง จะมาตัดสินให้เหมือนไม้บรรทัดอันเดียวที่จะต้องเหมือนๆ กันก็คงไม่ได้ ทุกคนมีความฉลาดในแบบของตนเอง และทุกคนมีความเก่งในสิ่งที่ตัวเองรักด้วยเช่นกัน
แม้ว่าความเก่งกับสิ่งที่รักอาจจะไปไม่สุด…แต่อย่างน้อยก็ยังดีที่ได้ทำตามสิ่งที่อยากจะเก่งในทางตัวเอง
นอกจากคนที่มีอีโก้เพราะอคติส่วนตัวในสิ่งที่ตนไม่มีนั้น การที่ยึดในอัตตาว่าฉันดีที่สุดในกรณีที่เป็นคนที่โชว์พาว คนที่คิดว่าตัวเองเก่งอยู่ตลอดเวลา ก็เป็นคนที่มีอีโก้ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นคนที่อคติส่วนตัวในความคิดจากสิ่งที่ไม่มี และอคติจากสิ่งที่เก่งที่สุดและต้องมีคนยอมรับในตัวเอง ก็ถือว่าเป็นอีโก้รูปแบบหนึ่ง
การต้องทำตัวให้เหมือนเก่งอยู่ตลอดเวลา…ความเก่งก็เป็นตัวสร้างอัตตาในใจตนเอง
ยกตัวอย่างในกรณีที่ผู้เขียนเจอบุคคลอีกคนซึ่งจะแตกต่างจากบุคคลแรกที่เอ่ยไป เธอเป็นนักกีฬาบาสเกตบอล ซึ่งตอนแรกเธอเล่นเทควันโดมาก่อน ด้วยความที่ถือตัวว่ามาก่อน ก็เลยทำตัวเหมือนหัวโจก
ฉันคุยกับอาจารย์ที่สอนกีฬาให้ฉัน ฉันตัดสินใจที่จะเอาดีทางด้านกีฬา ซึ่งเขาก็เข้าใจแต่ต้องตั้งใจซ้อมให้หนักกว่าเดิม แต่ก็มีบางคนที่เขาไม่ชอบฉัน แล้วเขาเองก็คือคนเดียวกับที่ผู้เขียนจะเล่านี่แหล่ะ ความที่เธอถือว่าตัวเองเก่ง เธอจะคอยขัดขาคนอื่นเพราะไม่ชอบให้ใครเด่นกว่า ยังยึดอัตตาว่าทุกคนต้องฟังแต่ตัวเองเท่านั้น ซึ่งการถืออัตตาของตนเองกลับเป็นสิ่งที่เลวร้าย ตอนที่เธอถูกให้มาสอนเด็ก เด็กไม่กล้าแม้แต่จะทำตามเพราะเธอดุเกินไป
แต่พอมาให้ฉันสอน เด็กคนนั้นกลับทำได้อย่างไม่น่าเชื่อ หนำซ้ำยังโดนอิจฉาเพราะฉันใจดีกับเด็กด้วย
ฉันเลยโดนเขม่นเพราะความยึดอีโก้ว่าทุกคนต้องฟังตัวเอง แล้วบีบบังคับแนวสอนตัวเอง บีบให้เด็กทำทั้งที่เด็กเริ่มไม่โอเคแล้ว จนเด็กคนนั้นไม่กลับมาซ้อมเทควันโดอีกเลย เพราะรุ่นพี่ที่ถืออัตตาตนเอง และคิดว่าตัวเองถูกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถือว่าอันตรายมากในอนาคต ฉันเลยตัดสินใจย้ายยิมเพราะไม่สามารถหามาตรฐานในการควบคุมคนในทีมได้ และอีกอย่างฉันเคยโดนเธอบูลลี่ด้วยเหมือนกัน
พอฉันมาที่ยิมใหม่ ฉันเลยได้เห็นโลกกว้างจากการเรียนรู้มากขึ้น ฉันได้รู้จักแนวทางในการสอนของโค้ชที่ดูมีวุฒิภาวะ มีไหวพริบที่จะจัดการ แก้ไขเฉพาะหน้าดีกว่ายิมเก่าค่อนข้างมาก การได้มาที่นี่ก็เป็นความสุขอย่างมาก เพราะทำให้ฉันได้เติบโตจากการเปลี่ยนที่ใหม่ ที่ที่ซึ่งไม่มีอัตตาจากคนๆ นี้อีก
แม้เวลาผ่านไปทำให้ฉันได้เรียนจบ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงตกงานจากโควิด แต่ฉันก็ไม่จนแต้ม ฉันก็ยังมี Connection จากสิ่งที่คอยเกื้อหนุนฉันอยู่บ้าง แต่ในทางกลับกัน เธอเองก็ตกที่นั่งลำบากมากกว่าฉันเสียอีก เธอจบมากลายเป็นคนว่างงานมาหลายเดือน แล้วไม่มีอะไรเป็นหลักแหล่งเลยในชีวิต มีชีวิตไม่ต่างอะไรจากการจนตรอกในช่วงโควิดเลย ซึ่งฉันยังมีช่วงได้งานบ้าง แต่ก็ได้รับผลกระทบจากโควิดเหมือนกันจนต้องตกงาน ถือว่าฉันยังมีโชคดีอยู่บ้างที่ยังมีคนคอยให้การสนับสนุน คอยแนะนำสิ่งดีๆ ให้ฉันเป็นแนวทางดำเนินชีวิต
ตัดมาที่เธอ ถ้าเธอลดอัตตาในใจของเธอลง ลดคิดว่าเธอเก่งคนเดียวบนโลกใบนี้ ลดความก้าวร้าวในใจลงบ้าง เพิ่มความอ่อนน้อมถ่อมตนไว้บ้างไม่ว่ากับใคร บางทีเธออาจจะมีคนคอยแนะนำเธออยู่เหมือนอย่างฉันก็ได้
นี่แหล่ะถึงสอนอยู่เสมอว่าการติดอีโก้…มันคือการหยุดพัฒนาอีกแบบหนึ่ง โดยเฉพาะการพัฒนาทางความคิด ถ้ายังยึดติดว่านี่คือฉัน คุณจะอยู่ในทางตันมาตลอดชั่วชีวิตของคุณเอง หรือถ้าหากเราเจอคนแบบนี้แล้วเหนื่อยใจ คุณไม่ต้องไปเสียใจในสิ่งนั้นเลย เพราะคนแบบนี้เรามีสิทธิ์ที่จะถอยได้จากคนเหล่านั้น
ถ้าหากเราเหนื่อย ให้เราถือคติเพื่อเก็บพลังงานของตนเองว่า “คนที่มีอีโก้…อย่าคุยให้เสียเวลาคบเลย”
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook